ขนาดกระเป๋าเดินทางที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ของแต่ละสายการบิน
เมื่อการเดินทางโดยเครื่องบินกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากห่างหายไปตั้งแต่ปี 2020 จากวิกฤตโรคระบาดที่ทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินหยุดชะงัก จนวันนี้ในปี 2022 เริ่มกลับมาเดินทางได้อีกครั้ง อาจทำให้หลาย ๆ คนลืมว่ากระเป๋าเดินทางแบบไหนที่ถือขึ้นเครื่องของแต่ละสายการบินได้ วันนี้เราจะมาย้อนความจำเรื่องนี้เพื่อจะได้เตรียมตัวถูก จัดกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ถูกต้องตามเงื่อนไขที่สายการบินกำหนด ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มตอนเช็กอินให้เสียอารมณ์
ขนาดกระเป๋าเดินทางที่ถือขึ้นเครื่องได้ในแต่ละสายการบิน
กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry on baggage) เป็นกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กใช้ได้ทั้งแบบมีล้อและไม่มีล้อลาก จะเป็นกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าสะพายข้าง หรือกระเป๋าเป้ ก็สามารถถือขึ้นเครื่องได้ตามต้องการ โดยที่ต้องมีน้ำหนักกระเป๋ารวมไม่เกิน 7 กิโลกรัม แต่ในส่วนของกระเป๋าลากจะมีเรื่องขนาดกระเป๋ากำหนดไว้ด้วย ซึ่งแต่ละสายการบินก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
1.การบินไทย (Thai Airway)
สายการบินประจำประเทศไทย ที่อนุญาตให้นำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ขนาดไม่เกิน 56 x 45 x 25 เซนติเมตร (สูง x กว้าง x หนา)
2.ไทยสไมล์ (Thai Smile)
สายการบินในเครือการบินไทยที่ให้บริการเครื่องบินโดยสารราคาประหยัด โดยไทยสไมล์อนุญาตให้นำกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ขนาดไม่เกิน 56 x 45 x 25 เซนติเมตร (สูง x กว้าง x หนา)
3.บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways)
อนุญาตให้นำกระเป๋าขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ชิ้น ขนาดไม่เกิน 50 x 36 x 23 เซนติเมตร (สูง x กว้าง x หนา) แต่ให้น้ำหนักกระเป๋าน้อยกว่าสายการบินอื่น โดยกำหนดให้ไม่เกิน 5 กิโลกรัมเท่านั้น
4.แอร์เอเชีย (Air Asia)
สายการบินอนุญาตให้นำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ขนาด 56 x 36 x 23 เซนติเมตร แต่ล่าสุดแอร์เอเชียมีบริการซื้อน้ำหนักกระเป๋าขึ้นเครื่องเพิ่มรวมกันสูงสุดถึง 14 กิโลกรัมเลยทีเดียว
5.นกแอร์ (Nok Air)
นำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร (สูง x กว้าง x หนา) ซึ่งต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
6.ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air)
สายการบินชั้นประหยัดอีกหนึ่งเจ้า ที่อนุญาตให้นำกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยกระเป๋าต้องมีขนาดไม่เกิน 40 x 30 x 20 เซนติเมตร (สูง x กว้าง x หนา)
วิธีจัดกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องให้หยิบของได้สะดวก ผ่านเครื่องตรวจสบาย ๆ
เมื่อทราบแล้วว่ากระเป๋าเดินทางแบบใดที่ใช้ถือขึ้นเครื่องได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำต่อมาก็คือ การจัดและคัดเลือกสิ่งของจำเป็นและใช้บ่อย ๆ เท่านั้น เพื่อให้ใส่ได้พอดีกับขนาดและน้ำหนักที่แต่ละสายการบินระบุไว้ โดยสามารถทำได้ตามแนวทางดังต่อไปนี้
1.ของจำเป็นจัดไว้บน ๆ สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้จัดไว้ด้านบนสุดของกระเป๋าเดินทาง หรือใส่ไว้ในกระเป๋าเล็ก ช่องซิปล็อก หรือช่องอะไรก็ตามที่หยิบออกมาใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องรื้อค้นหรือเปิดกระเป๋าบ่อย ๆ
2.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จัดไว้รวมกัน ถ้าคุณมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ไอแพด แท็บเล็ต กล้อง โน๊ตบุ๊ค หรือไอพอด ให้จัดรวมไว้ด้วยกัน เพราะเวลานำกระเป๋าเดินทางเข้าเครื่องตรวจ อุปกรณ์เหล่านี้เจ้าหน้าที่จะให้คุณนำออกจากกระเป๋า และใส่ไว้ในตะกร้าก่อนส่งเข้าเครื่องตรวจตามหลังกระเป๋าของคุณไปติด ๆ
3.ของเหลว ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ของเหลวในที่นี้ หมายถึง ครีม โลชั่น น้ำมันทาผิว น้ำมันใส่ผม หรือน้ำหอม ต้องมีขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และจับใส่ถุงพลาสติกแยกไว้กันหกเลอะภายในกระเป๋าเดินทาง
4.Power Bank ขนาดความจุไม่เกิน 32,000 mAh หลายคนยังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการนำ Power Bank หรือแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่อง เพราะไม่ใช่ว่า Power Bank ทุกขนาดจะนำขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องเป็นขนาดความจุไม่เกิน 32,000 mAh หรือ 160 Wh โดยอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อนเท่านั้น สำหรับ Power Bank ที่ขนาดความจุเกินกว่าที่กำหนด ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องหรือโหลดใต้ท้องเครื่องทุกกรณี
รู้แบบนี้แล้วการจัดกระเป๋าเดินทางสำหรับถือขึ้นเครื่องในทริปหน้าคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่ว่าจะสายการบินใดคุณก็สามารถถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้สบาย ๆ ผ่านเครื่องตรวจได้ฉลุย รวมถึงไม่ต้องเสียเวลารื้อค้นสัมภาระเพื่อนำสิ่งของต้องห้ามออก ออกเดินทางได้อย่างราบรื่น เหลือเวลาไว้ชอปปิงในสนามบินได้สบาย ๆ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางของเรา:
กระเป๋าเดินทาง - เลือกชมกระเป๋าเดินทางหลากหลายแบบกระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว - ขนาดกระเป๋าที่พกพาสะดวกและเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น
กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง - ข้อมูลเกี่ยวกับการโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องบิน
ขนาดกระเป๋าเดินทาง - คู่มือเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสม