3 วิธีป้องกันกระเป๋าลากมีกลิ่นอับ ปัญหากวนใจที่แก้ได้ไม่ยาก
เคยไหมเก็บกระเป๋าลากไว้อย่างดี พอจะหยิบมาใช้งานกลับมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างกลิ่นอับโชยออกมาปะทะจมูกเป็นกลิ่นแรก แทนที่จะใช้ได้เลยกลับต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นอีกพักใหญ่ กว่าจะนำมาใช้ได้ก็ใช้เวลาเป็นวัน ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณนำ 3 วิธีป้องกันกลิ่นอับไปใช้ดู วิธีง่าย ๆ ที่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถกำจัดกลิ่นได้สะอาดหมดจด
3 วิธีป้องกันกลิ่นอับในกระเป๋าลาก ใช้เวลาทำไม่นานแก้ปัญหาได้เห็นผล
คงไม่มีใครอยากให้กลิ่นอับติดไปกับสัมภาระต่าง ๆ ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าลาก โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ต้องใส่ตลอดทั้งทริป เพราะหากมีกลิ่นอับติดตัวไปด้วยทุกที่ ทริปที่ควรจะต้องสนุกคงกลายเป็นหมดความมั่นใจ ซึ่งถ้าคุณไม่อยากเจอกับปัญหานี้ ลองนำ 3 วิธีต่อไปนี้ไปใช้ดู รับรองว่าป้องกันกลิ่นอับติดกระเป๋าได้อย่างแน่นอน
1.อากาศถ่ายเทช่วยได้
หลังจากเดินทางเสร็จในทุก ๆ ทริป เมื่อนำสัมภาระทั้งหมดออกจากกระเป๋าลากแล้ว ก่อนที่จะเก็บกระเป๋า ให้เปิดและกางกระเป๋าเดินทางทั้ง 2 ฝั่งออกในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ดี และไม่โดนแสงแดดจัด เพื่อทำการระบายอากาศและกลี่นไม่ดีภายในออกมา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย อย่างน้อย 1 – 2 ชั่วโมง
2.ทำความสะอาดก่อนเก็บ
หากกระเป๋าเดินทางของคุณถูกใช้งานหนักจนมีคราบสกปรก หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นหลังจบทริป แค่เปิดกระเป๋าทิ้งไว้เพื่อระบายอากาศอาจไม่เพียงพอ ให้เพิ่มการทำความสะอาดด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดภายในกระเป๋าให้ทั่ว แล้วปล่อยไว้ให้แห้งสนิทก่อนเก็บกระเป๋า
3.ใส่ตัวช่วยลดกลิ่นอับก่อนเก็บ
เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า การใช้กระเป๋าเดินทางในครั้งหน้า เปิดกระเป๋ามาแล้วจะไม่มีกลิ่นอับแน่นอน ให้ใช้ตัวช่วยขจัดกลิ่นอับ อย่างข้าวสาร ถ่าน ใบชาจีน หรือเบกกิ้งโซดาใส่ไว้ในกระเป๋าก่อนเก็บ เพราะของเหล่านี้มีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นได้ดี จึงวางใจได้เลยว่ากลิ่นอับจะไม่มากวนใจคุณอย่างแน่นอน
3 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นอับในกระเป๋าลาก จนไม่อยากหยิบมาใช้
หลายคนคงกำลังสงสัยว่า กลิ่นอับเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่บางทีกระเป๋าเดินทางไม่ได้เปื้อนหรือสกปรกด้วยซ้ำ ก่อนเก็บตรวจดูแล้วก็ยังสะอาดไร้กลิ่น ดูปกติดีทุกประการ จริง ๆ แล้วสาเหตุของกลิ่นอับนั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง เรามีคำตอบมาฝาก
1.เชื้อรา หรือแบคทีเรีย
เชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย คือสาเหตุหลักของกลิ่นอับชื้นที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทางของคุณ ซึ่งคุณไม่สามารถมองเห็นเชื้อโรคเหล่านี้ได้ด้วยตา จึงทำให้แม้ก่อนเก็บกระเป๋าจะดูสะอาด แต่จริง ๆ แล้วคุณอาจขังเชื้อโรคทั้ง 2 ชนิดนี้ไว้ในกระเป๋าเดินทางของคุณอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนเกิดเป็นกลิ่นอับขึ้นมา
2.คราบเหงื่อจากเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว
คราบเหงื่อเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดกลิ่นอับชื้น ซึ่งเมื่อคุณนำเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางระหว่างออกทริป กลิ่นอับชื้นเหล่านี้ก็เข้าไปฝังตัวอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางของคุณเรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องเปิดกระเป๋าระบายอากาศทิ้งไว้สักพักก่อนที่จะเก็บกระเป๋าเข้าที่ หรือถ้าทำได้ให้ซักเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว หรือแยกใส่ถุงซิปล็อกก่อนใส่กระเป๋าเดินทาง
3.ถูกความชื้นระหว่างเดินทาง
ระหว่างเดินทาง คุณอาจเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ด้านในของกระเป๋าลากเปียกชื้น เมื่อจบทริปจึงไม่ควรเก็บกระเป๋าเข้าที่ทันที ควรเปิดระบายอากาศทิ้งไว้สักพักใหญ่ จนแน่ใจว่ากระเป๋าแห้งสนิท ไม่เหลือความชื้นอยู่ในกระเป๋าจนเกิดเป็นกลิ่นอับให้หงุดหงิดใจ
เพราะปัญหากลิ่นอับในกระเป๋าลาก ไม่ใช่เรื่องที่ควรเมินเฉย แต่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการป้องกันไม่ให้เกิด ดีกว่ามาหาวิธีกำจัดในภายหลัง เพื่อให้กระเป๋าเดินทางพร้อมใช้งานอยู่ตลอด เผื่อมีทริปปุ๊บปั๊บจะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์กับกลิ่นไม่พึงประสงค์ สามารถเก็บของใส่กระเป๋าแล้วออกเดินทางได้เลย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางของเรา:
กระเป๋าเดินทาง - เลือกชมกระเป๋าเดินทางหลากหลายแบบกระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว - ขนาดกระเป๋าที่พกพาสะดวกและเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น
กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง - ข้อมูลเกี่ยวกับการโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องบิน
ขนาดกระเป๋าเดินทาง - คู่มือเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสม