5 ขั้นตอน เช็กอินด้วยตนเองผ่านตู้ KIOSK ที่สนามบิน ฉบับมือใหม่หัดเที่ยว

ใครที่กำลังจะเดินทางไปสนามบิน เพื่อทำการเช็กอินรับตั๋วโดยสารเครื่องบินเพื่อขึ้นเครื่อง ซึ่งหากคุณไปถึงแล้วพบว่า แถวสำหรับการเช็กอินที่หน้าเคาน์เตอร์ยาวเหยียดจนอาจทำให้ตกเครื่องได้ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป ให้มองหาเครื่องให้บริการเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ หรือที่เรียกกันว่า “ตู้  KIOSK” ซึ่งจะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กับเคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบิน โดยวันนี้เรามี 5 ขั้นตอน เช็กอินด้วยตนเองผ่านตู้ KIOSK มาฝากนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีขนาดกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่ใช้พกพาขึ้นเครื่อง หรือใบใหญ่ที่ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่อง ก็สามารถใช้งานที่ตู้ KIOSK นี้ได้เช่นกัน

5 ขั้นตอน เช็กอินด้วยตู้ KIOSK ไม่ต้องต่อแถวหน้าเคาน์เตอร์ให้เสียเวลา

สำหรับการเช็กอินด้วยตู้ KIOSK นั้น สิ่งที่คุณต้องเตรียมมาให้พร้อมจากที่บ้านคือ ข้อมูล E-Ticket เพื่อใช้ในการรับBoarding Pass ซึ่งบางคนอาจสะดวกดูจากกระดาษก็สามารถปริ้นท์ออกมาจากอีเมลที่ทางสายการบินส่งให้ก็ได้ หรือบางคนไม่ชอบพกเอกสาร ก็สามารถบันทึกภาพหรือไฟล์เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ และเปิดดูตอนเช็กอินด้วยตู้ KIOSK ตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย

1.ป้อนข้อมูล E-Ticket ของคุณลงไป ตามด้วยข้อมูลอื่น ๆ ที่สายการบินต้องการ อาทิ เลขสมาชิกสายการบินเพื่อใช้ในการสะสมไมล์ หรือข้อมูลบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน

2.กรอกข้อมูลที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอตู้ KIOSK ซึ่งส่วนมากจะเป็นข้อมูลส่วนตัว รวมถึงข้อมูลการเดินทางของคุณ เช่น ชื่อ-นามสกุล จุดหมายปลายทาง ไฟล์ทบิน มีขนาดกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องหรือไม่ จำนวนกี่ใบ

3.ยืนยันความถูกต้องและสั่งพิมพ์ Boarding Pass หลังจากกรอกข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ตู้ KIOSK จะสรุปข้อมูลให้ตรวจสอบอีกครั้ง แล้วค่อยกดยืนยันความถูกต้องก่อนสั่งพิมพ์ Boarding Pass ซึ่งหากขนาดกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไปเป็นขนาดที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ ก็สามารถนำ Boarding Pass ที่ได้ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่สนามบิน และเข้าไปรอที่ประตูทางออกสำหรับขึ้นเครื่องได้เลย แต่ถ้าขนาดกระเป๋าเดินทางต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่อง ให้ทำขั้นตอนที่ 4 ต่อ

4.โหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์สายการบิน ไปยังเคาน์เตอร์สายการบินในช่องบริการโหลดกระเป๋าเดินทาง ยื่น Boarding Pass พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีเดินทางในประเทศ) หรือพาสปอร์ต (กรณีเดินทางต่างประเทศ) รอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จากนั้นนำกระเป๋าเดินทางขึ้นชั่งน้ำหนัก และวางบนสายพาน โดยระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่อาจมีการซักถามข้อมูลเล็กน้อย อาทิ มีพาวเวอร์แบงค์ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดลงใต้ท้องเครื่องหรือไม่ เป็นต้น

5.ติดแท็กบนกระเป๋าเดินทาง การเช็กอินจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ติดแท็กบนกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่อง จากนั้นกระเป๋าเดินทางจะถูกลำเลียงผ่านเครื่องสแกนสัมภาระ ให้คุณรอจนแน่ใจก่อนว่า กระเป๋าของคุณผ่านการตรวจสอบเรียบร้อย จึงค่อยนำ Boarding Pass ยื่นให้เจ้าหน้าที่สนามบินและเดินไปรอขึ้นเครื่องที่ประตูทางออกตามที่ระบุไว้บน Boarding Pass ได้

เช็กอินออนไลน์ อีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวก ลดความวุ่นวายไปได้เกินครึ่ง

นอกจากวิธีเช็กอินด้วยตนเองผ่านตู้ KIOSK แล้ว คุณยังสามารถเช็กอินออนไลน์มาตั้งแต่ที่บ้านได้ด้วย โดยการเช็กอินออนไลน์นั้นแต่ละสายการบินจะมีเวลาเปิดเช็กอินที่แตกต่างกันไป มีตั้งแต่ก่อนเดินทาง 14 วัน จนถึงล่วงหน้าแค่ 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่เดินทางควรตรวจสอบเงื่อนไขการเช็กอินของสายการบินที่ใช้บริการให้ดี โดยการเช็กอินออนไลน์นั้น ขั้นตอนการทำจะคล้าย ๆ กับการเช็กอินผ่านตู้ KIOSK เพียงแต่ทำบนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันมือถือนั่นเอง

ซึ่งหลังจากกรอกข้อมูลทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว สายการบินจะส่ง Boarding Pass มาให้ทางอีเมล ให้พิมพ์และนำมายื่นกับเจ้าหน้าที่ในวันเดินทางได้เลย หรือหากเป็นแอปพลิเคชัน Boarding Pass ก็จะถูกบันทึกไว้ในแอป ซึ่ง Boarding Pass ในแอปสามารถแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูได้โดยไม่ต้องพิมพ์ออกมาให้เปลืองกระดาษ และเช่นเดียวกันสำหรับใครที่มีขนาดกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่อง ก็ให้ไปที่เคาน์เตอร์ในช่องบริการโหลดกระเป๋า พร้อมยื่น Boarding Pass กับเอกสารยืนยันตัวตนอย่างบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ตก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ได้ทราบวิธีเช็กอินด้วยตนเองผ่านตู้ KIOSK และวิธีเช็กอินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันสายการบินกันไปแล้ว หวังว่าการเดินทางครั้งต่อไป ทุกคนจะไม่พลาดจนทำให้ตกเครื่อง ซึ่งแม้ว่าคุณจะเช็กอินมาก่อนล่วงหน้า หรือตั้งใจว่าจะมาเช็กอินด้วยตนเองผ่านตู้ KIOSK ก็ควรเผื่อเวลามาสนามบินก่อนเวลาขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง โดยเฉพาะหากเดินทางพร้อมขนาดกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่อง หลายครั้งมักจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จนต้องเสียเวลารอนานกว่าที่คาดไว้ หรือเผื่อเกิดปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่อาจคาดเดา จะได้มีเวลาจัดการได้ทันก่อนเวลาขึ้นเครื่อง