5 จุดต้องเช็กก่อนซื้อกระเป๋าลาก เพื่อให้ได้ใบที่ใช่ใช้งานได้ยาว ๆ

ใครที่กำลังวางแผนจะซื้อกระเป๋าลาก หรือกระเป๋าเดินทางใบใหม่ ต้องไม่พลาดบทความนี้ เพราะเราจะมาบอกต่อถึงเคล็ดลับการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากให้ตอบโจทย์การเดินทาง รวมถึง 5 จุดที่ต้องเช็กให้ดีก่อนซื้อ เพื่อให้คุณได้กระเป๋าเดินทางใบใหม่ที่ตรงใจ สภาพดี ไม่มีส่วนไหนเสียหรือชำรุดให้ต้องหงุดหงิดใจ ลากง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ซื้อแล้วใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนอยู่บ่อย ๆ

 เคล็ดลับการเลือกกระเป๋าลาก เลือกอย่างไรให้โดนใจตั้งแต่ใบแรก

กระเป๋าลากสำหรับเดินทางนั้น ถูกผลิตออกมาให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรหลากหลายรูปแบบ เยอะจนบ้างครั้งก็เลือกไม่ถูก ว่าแบบไหนจะเป็นใบที่ใช่กันแน่ แล้วต้องเลือกอย่างไรที่จะไม่ต้องเสียเงินซื้อใบใหม่เปลี่ยนอยู่บ่อย ๆ วันนี้เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อใช้เลือกกระเป๋าเดินทางล้อลากได้ตรงใจมาฝาก

1.จำนวนวันที่เดินทางอยู่เป็นประจำ ขนาดของกระเป๋าลากนั้นมีให้เลือกใช้จุสัมภาระได้ตั้งแต่ขนาด 16 นิ้ว ไปจนถึงใบใหญ่ 28 นิ้ว จะเลือกขนาดไหนลองดูว่าการเดินทางของคุณส่วนมากเป็นการเดินทางระยะเวลานานเท่าไหร่ ก็จะได้ใบที่สามารถจุสัมภาระได้พอดีตรงใจแน่นอน

2.วิธีทำความสะอาด ดูว่าลักษณะนิสัยของคุณเป็นคนขยันและชอบดูแลสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือไม่ เพราะกระเป๋าบางประเภทอย่างกระเป๋าเดินทางแบบอ่อน (Soft Case) ที่ทำจากผ้า จำเป็นต้องใช้ความใส่ใจในการดูแลรักษาและทำความสะอาดพอสมควร แต่แลกมากับกระเป๋าเดินทางที่จุสัมภาระได้มาก มีความยืดหยุ่นดี รวมถึงหมดกังวลเรื่องกระเป๋าแตกหักระหว่างการเดินทางได้อีกด้วย

3.การเก็บรักษา การเลือกกระเป๋าลาก ไม่ใช่แค่นึกถึงแต่ลักษณะการใช้งานเพียงอย่างเดียว ต้องนึกถึงเวลาเก็บรักษาขณะไม่ใช้งานด้วย หากสถานที่ที่ใช้เก็บกระเป๋าเป็นที่แคบที่ไม่มีอากาศถ่ายเท จะไม่เหมาะกับกระเป๋าที่ทำจากผ้า เพราะมีโอกาสที่จะเกิดกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงอาจทำให้กระเป๋าขึ้นรา และมีเชื้อโรคอยู่ในกระเป๋าของคุณได้ แต่หากเป็นกระเป๋าเดินทางที่ทำจากพลาสติก ก็ต้องหลีกเลี่ยงเก็บกระเป๋าในบริเวณที่ร้อนหรือโดนแดด เพราะจะทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ กระเป๋าเสื่อมอายุการใช้งานเร็วขึ้นกว่าเดิม

5 จุดต้องเช็กให้ดีก่อนซื้อกระเป๋าลาก หากไม่อยากได้ใบที่ชำรุดมาใช้งาน

หลังจากได้เคล็ดลับในการเลือกกระเป๋ากันไปแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าใบที่คุณตัดสินใจควักกระเป๋าจ่ายคือใบที่ใช่ นำไปใช้งานได้ยาว ๆ ต้องไม่ลืมที่จะเช็ก 5 จุดต่อไปนี้ก่อนนำไปชำระเงิน

1.คันชัก คันชักกระเป๋าลากมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบแขนคู่ และแขนเดี่ยว ซึ่งแบบแขนคู่จะใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของกระเป๋าเดินทางได้ง่ายกว่า แต่ที่ต้องเช็กให้ดีคือความแข็งแรง ควรทดลองโยกคันชักไปมาว่ามีอาการคลอนหรือไม่ และเลือกใบที่คันชักติดแน่นไม่โคลงเคลง

2.ซิปล็อก เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของสัมภาระของคุณ ซิปล็อกกระเป๋าที่ใช้ควรเป็นซิปแบบ 2 ชั้น เพราะจะช่วยปกป้องคุณจากการโดนโจรกรรมด้วยวิธีกรีดกระเป๋า รวมถึงหมดปัญหาซิปแตกระหว่างทางได้อีกด้วย

3.หูหิ้ว หูหิ้วกระเป๋าลากที่ดีต้องติดอยู่กับตัวกระเป๋า และควรต้องพับเก็บได้อัตโนมัติ เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน และป้องกันหูหิ้วชำรุดขณะใช้งาน

4.ล้อ สิ่งสำคัญที่ต้องเช็กก็หนีไม่พ้นล้อ ซึ่งมีให้เลือกซื้อทั้งแบบ 2 ล้อ และแบบ 4 ล้อ โดยรุ่นที่เป็น 4 ล้อจะได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากช่วยให้การควบคุมทิศทางของกระเป๋าขณะลากทำได้ง่าย จึงเบาแรงการขนสัมภาระไปได้มาก โดยให้เช็กดูว่าล้อสามารถหมุนได้ 360 องศาหรือไม่ ขณะลากล้อมีอาการสะดุด ติดขัด ล้อฝืด หรือมีเสียงดังกวนใจหรือเปล่า

5.สายรัดหรือซิปในกระเป๋า จุดนี้ต้องเช็กให้ดีเลย เพราะหากไม่มีซิปหรือสายรัดภายในกระเป๋า จะทำให้สัมภาระที่คุณอุตส่าห์เสียเวลาจัดเรียงไว้อย่างดีล้มกระจัดกระจาย ดีไม่ดีอาจมีสิ่งของเสียหาย เสื้อผ้ายับ หรือเครื่องสำอาง ครีม แชมพู หกเลอะเทอะเต็มกระเป๋า กลายเป็นการเพิ่มงานต้องนำออกมาซักทำความสะอาดยกใหญ่

รับประกันได้เลยว่าถ้าคุณนำทั้งหมดที่เราแนะนำไปใช้เลือกกระเป๋าลากคู่ใจใบใหม่ นอกจากคุณจะได้กระเป๋าที่โดนใจ ยังช่วยให้คุณประหยัดเงิน ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนกระเป๋าเดินทางอยู่บ่อย ๆ อีกด้วย ซื้อใบนี้จบพกไปเที่ยวได้ครบทุกทริป ใช้งานได้ยาว ๆ ตรงตามที่ต้องการ