5 เทคนิคต่อราคาในเซินเจิ้น แหล่งชอปปิงที่คุณจะได้ของฝากเต็มกระเป๋าเดินทาง

ถ้าพูดถึงแหล่งชอปปิงในเอเชียที่มีสินค้าให้เลือกครบทุกอย่างในราคาประหยัดที่หาไม่ได้ตามท้องตลอดทั่วไป หลายคนคงนึกถึง “เซินเจิ้น” ตลาดซื้อขายสินค้าในตำนานที่ปัจจุบันก็ยังคงนิยม ดึงดูดนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้าไปเลือกชมเลือกซื้อสินค้าทุกประเภท ซึ่งขอบอกเลยว่าหากอยากได้สินค้าราคาดีที่นำไปขายแล้วได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ต้องรู้เทคนิคการต่อราคาขั้นเทพ ซึ่งวันนี้เราได้คัดเทคนิคที่รับรองใช้แล้วได้ผล ได้ของราคาถูกจนคุณเองยังตกใจ ซื้อกลับมาเต็มกระเป๋าเดินทางแบบไม่รู้ตัว

2 แหล่งชอปปิงชื่อดังในเซินเจิ้น ที่ควรพกกระเป๋าเดินทางไปช่วยใส่ของกลับบ้าน

บางทีคุณอาจต้องเตรียมตัวให้พร้อมกว่าปกติ หากมาชอปปิงที่เซินเจิ้นนี้ มือเปล่าที่จะใช้หิ้วถุงชอปปิงแบบที่เคยทำอาจไม่พอ คุณอาจจะต้องเตรียมกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากใบเปล่าติดไปด้วย เผื่ออำนวยความสะดวกให้คุณสามารถชอปปิงได้นาน และได้ของกลับไปครบถ้วนตามที่ลิสต์ไว้ โดย 2 แหล่งชอปปิงยอดนิยมในเซินเจิ้นนั้น มีดังนี้

1. ตงเหมิน

ใครที่ชอบสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าต่าง ๆ ถ้าให้จินตนาการก็จะคล้ายกับการชอปปิงแถวสยามของไทย แต่มีพื้นที่ที่ใหญ่กว่ามาก จนสามารถรวบรวมเอาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักชอปไว้ได้อย่างครบครันในที่เดียว สินค้าที่นี่ราคาไม่ได้สูงมากนัก สามารถต่อได้แต่อาจจะลดให้ไม่เยอะ เพราะปกติจะจัดโปรลดราคาตลอดทั้งปีอยู่แล้ว

2. หล่อวู่ซิตี้

เหมือนตลาดนัดสวนจตุจักรบ้านเรา แต่ใหญ่กว่าหลายเท่าตัว มีข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่รอพร้อมให้เข้าไปต่อราคา ใครที่มีเทคนิคการต่อราคาขั้นเทพจะได้เปรียบ เพราะจะทำให้คุณได้ของในราคาเหมือนแจกฟรีกลับบ้านไปเต็มกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเทคนิคการต่อราคานั้นเรามีมาบอกต่อ เพื่อจะได้นำไปใช้เตรียมตัวให้พร้อม ซ้อมชอปซ้อมต่อ ถึงเซินเจิ้นแล้วจะได้ต่อคล่อง ๆ ได้ราคาดีที่ถูกใจ

5 เทคนิคต่อราคาในเซินเจิ้น ชอปเพลินจนต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเดินทางเพิ่ม

การชอปปิงกับการต่อราคาเป็นของคู่กันที่ขาชอปทุกคนทราบกันเป็นอย่างดี และสถานที่ที่ต่อราคาได้สนุกที่สุดก็น่าจะเป็นแหล่งชอปปิงขนาดใหญ่อย่างเซินเจิ้นของประเทศจีนนี่แหละ ถ้าคุณรู้เทคนิคคุณอาจได้ของติดไม้ติดมือกลับมาในราคาที่ถูกกว่าครึ่ง หรือ 1 ใน 3 ของราคาป้ายเลยก็เป็นได้ วันนี้เราจึงรวบรวมเอาเทคนิคต่อราคาที่เซินเจิ้นขั้นเทพมาฝาก เทคนิคที่จะทำให้คุณชอปจนกระเป๋าเดินทางแทบแตก ต้องซื้อกระเป๋าเพิ่มและซื้อน้ำหนักกระเป๋าขากลับไทยเพิ่มอีก

1. รู้ศัพท์จีนไปนิดหน่อยช่วยได้

คำศัพท์หรือประโยคที่ควรรู้และนำไปใช้ต่อราคาที่จีน จะมีอยู่ 2-3 คำไม่มากนัก อย่างคำว่า “ไท่กุ้ย” แปลว่า แพงเกินไป ตามด้วยประโยคฮุคต่อมาติด ๆ คือ “เผียนอีอี้เตี่ยน” ซึ่งก็คือ ลดราคาลงหน่อยได้ไหม และหากร้านค้าไม่ลดให้ ใช้ประโยคไม้ตายอย่าง “ปู๋เหย้าเรอ” ซึ่งก็คือ งั้นไม่ซื้อละ จากนั้นพ่อค้าแม่ค้าจะรีบลดราคาให้คุณเพื่อรักษาลูกค้าขาชอปอย่างคุณไว้

2. เดินนิ่ง ๆ ไม่ตื่นตูม

การวางตัวเมื่อเข้าไปในเซินเจิ้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะบรรยากาศข้างในจะค่อนข้างอึกทึกครึกโครม เสียงพ่อค้าแม่ค้าชาวจีนที่ตะโกนโหวกแวก รวมถึงพร้อมจะถึงเนื้อถึงตัวคุณ เพื่อดึงเข้ามาเลือกชมสินค้าของร้านเขา แม้จะเป็นพฤติกรรมที่เราคนไทยไม่คุ้นชินมากนัก แต่ถือเป็นปกติของจีน แนะนำให้เดินนิ่ง ๆ สงบทุกอย่าง ไม่ตื่นตูมจนถูกจับได้ว่าเพิ่งมาครั้งแรก เพราะอาจทำให้คุณพลาดของราคาถูกอย่างที่สมควรได้ก็เป็นได้

3. เดินดูให้ทั่วก่อนตัดสินใจซื้อ

เพราะพื้นที่ชอปปิงในเซินเจิ้นมีขนาดที่กว้างใหญ่มาก ทำให้มีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเหมือนกันอยู่ไม่น้อย และราคาก็แตกต่างกันไป หากคุณอยากได้ของราคาประหยัดต้องใจเย็น ๆ เดินดูก่อนให้ทั่ว หรือเดินให้มากที่สุดที่คุณจะมีแรงเดินได้ เพื่อสำรวจราคาก่อนซื้อจริง

4. ไม่ต่อเรี่ยราด

ถ้าไม่อยากได้จริง ๆ แนะนำว่าอย่าเข้าไปต่อราคาทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ เพราะนอกจากจะโดนตื้อจนตัวคุณเองต้องจำใจซื้อแม้ไม่อยากได้แล้ว คุณอาจถูกตำหนิเป็นภาษาจีนไล่หลังก็เป็นได้

5. ถ้าอยากได้ต่อจริงจังไปเลย

แต่ในทางกลับกัน ถ้ามั่นใจว่าอยากได้ของชิ้นนี้จริง ๆ ให้ต่อราคาแบบจริงจังไปเลย จริงจังในที่นี้คือ ต่อแบบราคาเหมือนให้ฟรี ไม่ใช่แค่ครึ่งต่อครึ่ง แต่สามารถต่อราคาได้ถึง 70-80 % ของราคาจริง ซึ่งเราคนไทยมักจะยึดกับความเกรงใจ แต่ขอบอกเลยว่าหากคุณใช้ความเกรงใจนี้ที่เซินเจิ้น อาจทำให้คุณพลาดของราคาดีแบบคนอื่น ๆ ได้

ได้ทราบแหล่งชอปปิง และเทคนิคการต่อราคาในเซินเจิ้นกันไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่คุณจะจองตั๋วเก็บกระเป๋าเดินทางไปยังดินแดนที่เป็นสวรรค์ของคนชอปปิง ใครได้มาเป็นติดใจ ต้องหาเวลากลับมาชอปอยู่เรื่อย ๆ หลายรอบต่อปี