Soft Case VS Hard Case เทียบกันชัด ๆ กระเป๋าเดินทางแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ

ปัจจุบันผู้ผลิตกระเป๋าเดินทางได้ออกแบบและพัฒนากระเป๋าออกมาให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ทั้งวัสดุ ดีไซน์ ลักษณะการใช้งานที่ตอบโจทย์นักเดินทางได้อย่างครอบคลุมทุกประเภท และกระเป๋าล้อลากถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าเดินทางที่ผู้คนส่วนใหญ่เลือกใช้ ด้วยการใช้งานที่สะดวก จุสัมภาระได้มาก จัดกระเป๋าก็ง่าย ที่สำคัญช่วยทุ่นแรงในการเคลื่อนย้ายได้ดี ด้วยล้อที่เคลื่อนที่อย่างอิสระทำให้แค่จับคันชักกระเป๋าก็สามารถลากไปไหนก็ได้ตามต้องการ ก่อนที่จะมองหากระเป๋าใบที่ใช่ มาดูกันก่อนดีกว่าว่าวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าล้อลากนั้นมีอะไรกันบ้าง คุณจะได้เลือกกระเป๋าใบโปรดได้ตรงใจ และตอบโจทย์การใช้งาน

วัสดุยอดนิยมที่ใช้ทำกระเป๋าเดินทาง รู้ไว้ดีเลือกกระเป๋าได้ถูกใจ

ปัจจุบันกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากมีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ประเภท คือ แบบ Soft Case และแบบ Hard Case โดยแตกต่างกันที่วัสดุและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งวัสดุที่นำมาทำกระเป๋าสามารถแยกได้ดังนี้

Soft Case

ผ้า วัสดุดั้งเดิมที่ถือเป็นวัสดุเปิดตัวของกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากเลยก็ว่าได้ โดยข้อดีของกระเป๋าล้อลากแบบผ้านั้น คือ ยืดหยุ่นได้ดี ทนทาน ตัวกระเป๋าสามารถรับแรงกระแทกได้ทุกรูปแบบ ไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าจะแตกระหว่างการเดินทาง

Hard Case

1.พลาสติก เป็นวัสดุที่นำมาใช้ทำกระเป๋าเดินทางแล้วได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยนวัตกรรมพลาสติกสำหรับทำกระเป๋าถูกยกระดับให้มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเดิม แต่ยังคงราคาที่ย่อมเยา จึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ครอบคลุมทุกประเภท ซึ่งประเภทพลาสติกที่นำมาใช้ทำกระเป๋าเดินทางนั้น มีดังต่อไปนี้

– ABS (Acrylonitrile-Butadiene-Styrene) เป็นพลาสติกที่ถูกพัฒนาให้มีความทนทาน เหนียว ทนต่อแรงกระแทกได้ดีในระดับหนึ่ง แต่จะไม่ค่อยทนต่อความร้อนสักเท่าไหร่ จึงควรเก็บไว้ให้ห่างจากสถานที่ที่โดนแสงแดดเป็นประจำ โดยตัวพลาสติก ABS นั้นถือเป็นวัสดุที่ราคาย่อมเยา ทำให้ราคากระเป๋าไม่สูงมาก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เบื่อง่าย ชอบเปลี่ยนกระเป๋าบ่อย ๆ ตามกระแสความนิยม

– PP (Polypropylene)

เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทานกว่า ABS และยืดหยุ่นได้ดีพอสมควร ราคากลาง ๆ ไม่แรงมากนัก ใช้งานได้คุ้มค่า แต่ควรระวังอย่าเก็บกระเป๋าเดินทางที่ทำจาก PP ไว้ในที่ที่โดนแดดหรือยูวีนาน ๆ เพราะจะทำให้กระเป๋าเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร

– PC (Polycarbonate) วัสดุพลาสติกเกรดดี ที่ทั้งทนทาน เหนียว และแข็งแรงกว่า ABS และ PP แถมยังทนต่อความร้อนได้สูง ซึ่งด้วยคุณสมบัตินี้ ทำให้กระเป๋าที่ทำจาก PC มีราคาที่สูงกว่ากระเป๋าที่ทำจากพลาสติกประเภทอื่น แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า ใช้ได้นาน ใช้ทนสมราคา

2.อะลูมิเนียม นิยมนำมาใช้กับกระเป๋าเดินทางเกรดพรีเมียม ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องความแข็งแรง และความยืดหยุ่นได้ดี ทำให้กระเป๋าที่ทำจากอะลูมิเนียมนั้น หมดปัญหาเรื่องกระเป๋าแตกระหว่างทาง แต่หากโดนกระแทกมาก ๆ อาจทำให้บุบได้ แต่ก็ไม่ถึงกับแตกหรือเสียหาย ใช้ได้นานกว่าวัสดุประเภทอื่น มีราคาที่สูงกว่ากระเป๋าที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ แต่หากใช้เดินทางอยู่เป็นประจำ ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่คุณจะได้ ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาไม่น้อยเลยทีเดียว

กระเป๋าเดินทาง Soft Case หรือ Hard Case เลือกแบบไหนดี ให้ตอบโจทย์ได้ตรงใจ

ได้ทราบกันไปแล้วว่าวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าเดินทางนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันต่อว่าในเมื่อมีให้เลือกมากมายขนาดนี้ แล้วแบบไหนที่เหมาะกับการเดินทางของคุณ ใบไหนคือใบที่ใช่ตอบสไตล์โจทย์การเดินทางได้ดีที่สุด

Soft Case

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าเดินทางที่จุสัมภาระได้มาก มีความยืดหยุ่นสูง เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก แต่ด้วยความที่วัสดุเป็นผ้า ความยืดหยุ่นจึงมีมากทำให้โอกาสที่สิ่งของด้านในเสียหายหรือแตกหักมีค่อนข้างมาก รวมถึงการดูแลรักษาที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะตัวกระเป๋าไม่กันน้ำ เลอะหรือเปื้อนได้ง่าย แต่มีวิธีแก้ เพียงคุณใส่ที่คลุมกระเป๋าก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

Hard Case

ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ตัวกระเป๋ามีลักษณะแข็งไม่ยืดหยุ่น จึงช่วยปกป้องสัมภาระในกระเป๋าได้ดี ไม่แตกหักเสียหาย กันน้ำกันฝนได้ โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมช่วย มีความทนทาน แต่หากเป็นกระเป๋าเดินทางที่ทำจากพลาสติก โอกาสที่กระเป๋าจะแตกก็ยังมีความเป็นไปได้พอสมควร แต่โดยรวมแล้วเมื่อเทียบกับราคาและการใช้งาน ถือเป็นกระเป๋าที่คุ้มราคาที่สุดอีกใบ

ได้ทราบกันไปแล้วว่าวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าเดินทางนั้นมีอะไรบ้าง และแบบไหนกันที่เหมาะกับการเดินทางของคุณ ซึ่งหากเลือกใบที่ใช่ได้ถูกต้องก็จะช่วยเบาแรง และช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับคุณได้ไม่น้อย ให้คุณเดินทางได้อย่างราบรื่น สนุกกับทุกทริปได้เต็มที่